นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการเดินทางเข้าประเทศไทยจะต้องขอรับการตรวจลงตราหรือขอวีซ่าจากสถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลใหญ่ของไทยซึ่งตั้งอยู่ในประเทศที่ตนอาศัยอยู่ หรือจากสถานเอกอัครราชทูตไทยที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลประเทศที่คนต่างชาติดังกล่าวมีที่พักอาศัย โดยนักท่องเที่ยวบางสัญชาติสามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องมีวีซ่า ซึ่งมี 2 กลุ่มดังนี้ กลุ่มแรก ประเทศที่ได้รับ ยกเว้น การตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยว และสามารถพักอยู่ในไทยได้ไม่เกิน 30 วัน กลุ่มที่สอง ประเทศที่ได้ทำข้อตกลงให้ยกเว้นการตรวจลงตรากับประเทศไทย นักท่องเที่ยวบางสัญชาติสามารถมาขอรับการตรวจลงตราที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองของไทยบางแห่งที่กำหนดไว้ เมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทยได้ (visa on arrival) โดยอยู่ในประเทศไทยได้ไม่เกิน 15 วัน หากเป็นนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางมาจากประเทศเขตติดโรคไข้เหลืองจะต้องแสดง “เอกสารระหว่างประเทศรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันไข้เหลือง” (International Health Certificate on Yellow Fever Vaccination) ในการยื่นคำร้องขอรับการตรวจลงตรา ณ สถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่ รวมทั้งจะต้องแสดงเอกสารดังกล่าวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเมื่อเดินทางถึงประเทศไทย จึงจะได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศได้ คุณสมบัติโดยทั่วไปของผู้ที่จะยื่นขอวีซ่าเข้าไทยได้มีดังนี้ – ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางที่ถูกต้องสมบูรณ์ และมีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน – มีหลักฐานแสดงว่าจะเดินทางออกจากประเทศไทยหลังจากสิ้นสุดการพำนักในไทย เช่น ตั๋วเครื่องบิน และมีวีซ่าหรือหลักฐานว่าสามารถเดินทางกลับประเทศที่มีถิ่นพำนัก หรือเดินทางต่อไปยังประเทศอื่นได้ (ในกรณีขอเดินทางผ่าน) – ไม่เป็นบุคคลต้องห้ามเข้าราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 เช่น…
-
-
เตรียมตัวเดินทางหลังโควิด-19 ซา
นักท่องเที่ยวเตรียมเฮเพราะหลายๆประเทศเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศกันอย่างต่อเนื่อง หลังจากมีสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 มานานหลายปี ตอนนี้เปิดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศได้แล้วแต่เพิ่มเติมในส่วนของเงื่อนไขของโรคระบาดนี้ วันนี้เราจะมาบอกวิธีการเตรียมตัวไปต่างประเทศในช่วงโควิด-19 นี้กัน แน่นอนว่าสิ่งแรกเลยที่ต้องรู้ คือประเทศไหนบ้างที่เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศแล้วบ้าง เมื่อเรามีประเทศในใจที่จะเดินทางไปแล้ว ก่อนอื่นควรตรวจสอบข้อกำหนดและเงื่อนไขของประเทศนั้น ๆ ก่อนเดินทางโดยเฉพาะเรื่องเอกสาร มีกำหนดกักตัวหลังเดินทางเข้าประเทศหรือไม่ หรือต้องฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 กี่เข็ม ซึ่งการเที่ยวต่างประเทศวัคซีนที่ฉีดจะต้องเป็นวัคซีนที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ข้อสำคัญคือเข้ารับการฉีดวัคซีน และถ้าจะไปต่างประเทศต่างๆ แบบไม่ต้องเสียเวลากักตัว ก็ควรต้องรับวัคซีนครบโดส และไม่ใช่แค่ครบโดสเท่านั้น ควรติดตามและไปฉีดกระตุ้นภูมิด้วย เพื่อให้ภูมิคุ้มกันยังอยู่ในร่างกายในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะในบางประเทศก็มีข้อกำหนดเกี่ยวกับวัคซีนกระตุ้นเข็มสามมาให้เห็นบ้างแล้ว จึงไม่ควรละเลยในส่วนนี้ได้ ในส่วนของการเตรียมเอกสาร โดยส่วนใหญ่เอกสารที่จำเป็นต้องมีคือ เอกสารยืนยันตัวตนของนักท่องเที่ยวเอง ไม่ว่าจะเป็นบัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง (ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 6 เดือนก่อนเดินทาง)และการต่ออายุพาสปอร์ตก็คือเปลี่ยนพาสปอร์ตเล่มใหม่ เลขพาสปอร์ตก็ใหม่ด้วย หากเราไปจองอะไรก็ตามที่มีการระบุเลขพาสปอร์ต และได้ใส่เลขเก่าไป จะต้องไปดำเนินแก้ไขเปลี่ยนให้ตรงกับเลขพาสปอร์ตเล่มปัจุบัน ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาขณะเดินทางได้ วีซ่า (VISAS) สำหรับบางประเทศที่ต้องทำวีซ่าก่อนเข้าประเทศนั้นๆ ใบรับรองผลการตรวจโควิดที่เป็นการตรวจแบบ RT –PCR ไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง พร้อมกับวัคซีนพาสปอร์ต ที่ระบุวัคซีนที่องค์การอนามัยโลกยอมรับในบางประเทศ หรือบางประเทศระบุอนุญาตเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มเท่านั้น และแน่นอนที่สุดรวมถึงตั๋วเครื่องบินขาไป-กลับ เอกสารจองที่พัก โรงแรม หรือแผนการเที่ยวสำหรับยืนยันด่านตรวจคนเข้าเมืองของประเทศปลายทาง และท้ายที่สุดแล้วการมีประกันสุขภาพระหว่างการเดินทางไปต่างประเทศ หรือแม้แต่ในประเทศตัวเองก็เป็นสิ่งจำเป็น…
-
เยือนญี่ปุ่น ฤดูไหนดี?
ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ใครหลายคนเมื่อไปถึงแดนพระอาทิตย์อุทัยแล้ว เป็นต้องเดินทางกลับไปเยียนอีกหลายต่อหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเพราะความสวยงามของภูมิประเทศ เมืองวัฒนธรรมที่น่าสนใจ อีกทั้งยังมีอีกหลายเมืองที่รอการเดินทางไปเยือน และญี่ปุ่นเองก็เตรียมแผนเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวหลังโรคระบาดซา ซึ่งเป็นการทดลองเปิดประเทศโดยรับนักท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์ ตามเงื่อนไขที่กำหนด ดังนั้นใครที่มีแผนท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นต้องไม่พลาดที่จะเตรียมตัวออกเดินทางในช่วงเวลาทองนี้ วันนี้เราเลยนำข้อมูลการเตรียมตัวเดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นมาฝากทุกท่านค่ะ การเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นช่วงฤดูกาลที่ดีที่สุดคือตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมถึงช่วงต้นเดือนเมษายน และอีกช่วงเวลาเดือนกันยายนจนถึงเดือนพฤศจิกายน เป็นช่วงที่อากาศกำลังดีที่สุดหากเตรียมเสื้อผ้าที่อบอุ่นมาด้วย สำหรับประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มี 4 ฤดูกาลคือ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว แต่จุดเด่นคือสภาพอากาศของแต่ละเมืองที่จะมีความแตกต่างกันออกไป และแน่นอนว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เดินทางไปชมดอกซากุระ ซึ่งเป็นดอกไม้ที่เติบโตที่ญี่ปุ่นดอกจะบานสะพรั่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิ กินระยะเวลาสองสัปดาห์ และเมืองที่เหมาะแก่การเดินทางไปท่องเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบไม้ผลิคือ โตเกียว เกียวโต โอซาก้า นาโงย่าและคุมาโมะโตะ หลังจากสองสัปดาห์แห่งดอกซากุระบานทั่วญี่ปุ่น ก็จะเข้าสู่ฤดูร้อนของญี่ปุ่นถือเป็นเทศกาลงานดอกไม้ไฟ ที่คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะสวมชุดยูกาตะเพื่อร่วมงานรื่นเริงนี้ เริ่มในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมที่มีฝนตกในช่วงต้นฤดูเพื่อบอกว่าเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อน เมืองที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวหน้าร้อนในประเทศญี่ปุ่นพลาดไม่ได้กับเมืองใหญ่อย่าง โตเกียว เกียวโต โอซาก้า อะบาชิริ ฟุราโนะ ช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน เหมาะสำหรับคนที่อย่างเดินทางท่องเที่ยวญี่ปุ่นแบบอากาศหนาวนิดๆ ซึ่งใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสี หรือที่หลายคนเรียกฤดูใบไม้เปลี่ยนสี เป็นฤดูที่มีของอร่อยมากมายตามเมืองท่องเที่ยว เช่นเมืองเซนได โออิตะ เป็นต้น ส่วนฤดูหนาวเริ่มช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์อากาศหนาวถึงหนาวมากที่สุด มีหิมะตกเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวไม่น้อยเพราะต้องการมาสัมผัสความหนาวเย็น และแน่นอนกิจกรรมท้าทายอย่างการเล่นสกี เล่นสโนบอร์ด ในช่วงปลายปีพร้อมกับเทศกาลสำคัญอย่างคริสมาสต์ ปีใหม่ หลายพื้นที่จัดสถานที่ด้วยไฟสวยงาม เหมาะกับการเที่ยวเดินเล่นในฤดูหนาวที่หนาวจริงๆ เมืองท่องเที่ยวที่นิยมในฤดูกาลนี้คือเมือง ฮากุบะมุระ และซัปโปโร การเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นแต่ละครั้ง ขอให้คำนึงถึงเรื่องฤดูกาลด้วยว่าวางแผนการเดินทางช่วงใดของปีเพื่อการเตรียมตัว…
-
หนีฝน เที่ยวต่างแดน
พอย่างเข้าฤดูฝน (ปลายเดือนพฤษภาคมไปจนถึงปลายเดือนตุลาคมของทุกปี) หลายๆท่านมักจะไม่อยากออกไปเที่ยวไหนเพราะความชื้นในอากาศ ถนนที่แฉะ การจราจรที่ติดขัดจะเที่ยวไหนก็ลำบาก ต้องพยายามหลีกเลี่ยงความเปียกปอนคิดว่าเที่ยวในประเทศคงไม่สะดวก ถึงแม้ว่าอยากจะเที่ยวใจจะขาดก็ตามที แนะนำให้ลองวางแผนเที่ยวต่างประเทศดู วันนี้เราถือโอกาสมาแนะนำเกี่ยวกับฤดูกาลที่ต่างประเทศ เพื่อนำไปพิจารณาเที่ยวแบบหนีฝนเพิ่มเติมให้ทุกท่านค่ะ หากจะพิจารณาในส่วนของประเทศที่ใกล้ประเทศไทยก็อาจจะมีฤดูกาลที่คล้ายกัน หลายท่านจึงเปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยวประเทศในทวีปยุโรป ออสเตรเลีย อเมริกา หรือเอเชียบางประเทศที่อากาศเที่ยวได้ทั้งปี ประเทศในทวีปยุโรปช่วงเวลานี้เป็นช่วงฤดูร้อนของทวีป ซึ่งถือว่าเป็นช่วงที่ฝนตกน้อยที่สุดในรอบปียิ่งในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคม ซึ่งแบ่งเป็นโซน บางโซนของทวีปฝนตกน้อย บางที่ฝนตกหนักต้องดูรายละเอียดเป็นประเทศไป แต่โดยทั่วไปแล้วฤดูร้อนของทวีปยุโรปโดยทั่วไปแดดจัด ท้องฟ้าสดใจ ดอกไม้บาน กลางวันยาวนานกว่ากลางคืน สถานที่เที่ยวเปิดเต็มวันและปิดช้า จึงเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวไทย แต่บางประเทศในยุโรปอาจจะร้อนจัด เช่น กรีซ สเปน อิตาลี แถมนักท่องเที่ยวเยอะ ที่พักมีราคาแพง สถานที่เที่ยวต้องรอเข้านานกว่าปกติ ร้านอาหารก็ต้องรอคิวนาน ทวีปยุโรปเป็นทวีปที่กว้าง อากาศแต่ละประเทศจึงไม่เหมือนกัน ประเทศที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปคือประเทศอังกฤษ และ ฝรั่งเศส และประเทศแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน อากาศอบอุ่น เหมาะกับการถ่ายรูปเช็คอินเป็นที่สุดค่ะ ทวีปออสเตรเลียช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม เป็นช่วงฤดูหนาวทำให้อากาศหนาวเย็นไปจนถึงมีหิมะตก หนีฝนประเทศไทยไปเที่ยวเมืองหิมะ ดูจิงโจ้ทานอาหารพื้นเมืองการไปเที่ยวประเทศออสเตรเลีย จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ไม่ควรพลาดในรายการที่เที่ยวต่างแดนช่วงฤดูฝนอย่างแน่นอน ประเทศในทวีปเอเชียสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการไปซึมซับวัฒนธรรมประเทศในเอเชียช่วงฤดูฝนของประเทศไทย จะเป็นที่อื่นไปไม่ได้เลย นอกจากประเทศญี่ปุ่นโดยช่วงเดือนกรกฏมาคมถึงสิงหาคมของทุกปี ที่นั่นเป็นหน้าร้อนที่มีทุ่งดอกไม้นานาชนิดเป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิต ที่ไม่ว่าจังหวัดไหนในประเทศญี่ปุ่นก็ต้องมีแลนด์มาร์คนี้ให้นักท่องเที่ยวได้ไปเช็คอินกันค่ะ และนี่เป็นประเทศที่เราแนะนำให้ทุกท่านได้นำไปพิจารณาและหาข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับทริปหนีฝนเที่ยวต่างแดนเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ เที่ยวสบายๆ ไม่เปียกปอน คลายกังวลเที่ยวประเทศที่อากาศดีสุดๆ และอาจจะเป็นไฮซีซั่นในบางประเทศ ให้บทความนี้ชี้ทางที่เที่ยวไร้ฝน
-
เที่ยวต่างประเทศยุคโควิด ให้ปลอดภัย
การ Workation เทรนด์การทำงานแบบใหม่ ที่เที่ยวไปด้วยทำงานไปด้วย รวมถึงการเดินทางไปยังต่างประเทศที่เริ่มคึกคักมากขึ้น หลังจากที่หลาย ๆ ประเทศได้เริ่มเปิดต้อนรับให้นักท่องเที่ยว กลับไปท่องเที่ยวได้อีกครั้งแบบไม่ต้องกักตัว หลังที่ต้องใช้ชีวิตอยู่แต่ในบ้านไปกับการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มาอย่างยาวนาน เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป การเดินทางไปต่างประเทศจึงต้องมีแผนการเตรียมความพร้อมในหลายด้าน ดังนี้ passport เอกสารสำหรับการยืนยันตัวตน ก่อนการเดินทาง ต้องแน่ใจว่าพาสปอร์ตยังมีอายุไม่น้อยกว่า 6 เดือน การขอวีซ่า สำหรับประเทศที่ต้องใช้วีซ่าเป็นหลักฐานในการเดินทางเข้าประเทศเป้าหมาย เช็กข้อกำหนดและเงื่อนไขการเดินทางเข้า-ออกของประเทศเป้าหมาย เพื่อให้เราสามารถเตรียมความพร้อมล่วงหน้าก่อนเดินทางได้ ไม่ว่าจะเป็นเอกสารที่ต้องใช้, ข้อกำหนดการกักตัว ไปจนถึงมาตรการการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ขอใบรับรองผลการตรวจโควิด โดยการตรวจแบบ RT-PCR ผลไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง และผลตรวจหาเชื้อ ต้องเป็นลบ โดยมีใบรับรอง Fit to Fly ด้วย Vaccine Passport ใช้เอกสารเพียงแค่บัตรประชาชนและหนังสือเดินทางเพื่อขอวัคซีนพาสปอร์ต โดยสามารถเดินทางไปขอวัคซีนพาสปอร์ตได้ตามหน่วยงานที่ให้บริการ หรือสามารถขอได้ด้วยตนเองง่าย ๆ ไม่เสียค่าใช้จ่าย ผ่านแอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” โดยจะรับเป็นเล่มหรือ e-Vaccine Passort (QR Code) ก็ได้ และต้องฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบโดส อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนเดินทางไป…
-
รู้หรือไม่ เราควรทำเช็คลิสต์ก่อนบินไปต่างประเทศ
ก่อนที่เราจะเดินทางไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจกันในต่างแดน นอกจากจะต้องทำการวางแผนการเดินทางแล้ว สิ่งหนึ่งที่หลายๆ คนมักจะทำ นอกจากการจัดกระเป๋าเดินทางให้พร้อมแล้ว เพื่อกันไม่ให้หลงลืมสิ่งของสำคัญ หรือสิ่งที่จำเป็น เราก็ต้องมีลิสต์รายการสิ่งของเหล่านั้นไว้เช็คเตรียมก่อนเดินทางนั่นเอง เริ่มจาก… 1.พาสปอร์ต เป็นสิ่งสำคัญสิ่งแรกที่เราต้องพกไว้กับตัวก่อนออกนอกประเทศ สิ่งนี้คือ พาสปอร์ต และที่สำคัญกว่าการพกพาสปอร์ต คืออายุของพาสปอร์ตของเรา ซึ่งประเทศปลายทางจะเป็นผู้กำหนดว่าตัวพาสปอร์ตต้องมีอายุเท่าไร ถึงจะเดินทางเข้าประเทศนั้นได้ และระหว่างการเดินทางต้องพกสิ่งนี้เพื่อการตรวจตราระหว่างขาเข้าหรือข้าออกนอกประเทศ หรือระหว่างเดินทางในต่างประเทศมีเหตุการณ์ไม่คาดหมายเกิดขึ้น พาสปอร์ตคือสิ่งที่สามารถระบุตัวตนของเราว่าเป็นนักท่องเที่ยวมาจากประเทศใดนั่นเอง 2.ภาษาที่ประเทศนั้นใช้ในการสื่อสาร การที่เราจะรู้ประโยคภาษาอังกฤษเพื่อเอาตัวรอดในสถานการณ์ต่างๆ นั้นเป็นสิ่งสำคัญ เพราะภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลที่ใช้ในทุกประเทศ จะต้องรู้ในส่วนของประโยคพื้นฐานเพื่อการสื่อสารที่ตรงกัน แต่บางครั้งหากมีบางประโยคที่เราสามารถเรียนรู้ได้ จะจดไว้ถามเจ้าของภาษาเองก็ได้ อย่างเช่นประโยคง่ายๆ เช่น ประโยคทักทาย ประโยคที่ใช้ในการซื้อของ เป็นต้น เพื่อเป็นการเพิ่มความสามารถทางภาษา และอรรถรสในการเดินทางอีกด้วย 3.สิ่งของเครื่องใช้ ส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าที่จะต้องใส่ให้เข้ากับฤดูกาลที่ต่างประเทศ ไม่ว่าหน้าร้อน หน้าฝน หรือจะหนาว ก็ต้องเตรียมให้พอดีกับตัวเองและฤดูกาล สารพัดแฟชั่นที่จะเตรียมไปถ่ายรูปกันแบบจัดเต็ม ขอแนะนำเรื่องจำนวนวันที่ไปพัก ไปหลายสถานที่ ก็ให้เตรียมเสื้อผ้าไปอย่างเหมาะสม พอดี อย่าขนไปเกินความจำเป็น นอกจากนี้ยังมีในส่วนของเครื่องอาบน้ำ หรือแม้แต่ไดร์เป่าผม ร่มขนาดเล็ก เป็นต้น 4.เงิน เป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ จำเป็นต้องแลกเงินไว้ใช้จ่ายในประเทศนั้นๆ ทางที่ดีควรแลกเปลี่ยนเงินก่อนไป เพราะอัตราการแลกเปลี่ยนที่ประเทศเราจะดีกว่า แลกง่ายกว่ามาก ไม่ควรพกเงินสดติดตัวมากเกินไป เพราะจะมีผลกับด่านตรวจคนเข้าเมืองทันที 5.…
-
ทำอย่างไรให้ปลอดภัย จากโควิด-19
ด้วยสถานการณ์ โควิด-19 ในช่วงเทศกาลท่องเที่ยวที่จะถึง ประเทศไทยยังอยู่ในสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 หรือโควิด 19 นักท่องเที่ยวจึงควรคำนึงถึงความปลอดภัยในการท่องเที่ยว โดยเน้นการเที่ยวแบบ New Normal และเริ่มวางแผนเที่ยวในประเทศอย่างไรให้ปลอดภัยจากโควิด โดนเรามีข้อแนะนำในการเที่ยวให้ปลอดภัย ดังนี้ เลือกที่เที่ยว โดยยึดความปลอดภัยเป็นหลัก ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวนับเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่าหากคำนึงด้านความปลอดภัยเป็นหลัก โดยจุดหมายปลายทางที่สามารถขับรถไปได้ถือเป็นตัวเลือกที่เราควรให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกๆ เหนือจุดหมายปลายทางยอดนิยมอื่นๆ ซึ่งที่เที่ยวในประเทศไทยก็มีทั้งเมืองหลัก เมืองรอง ลองใช้โอกาสนี้หลีกหนีฝูงชนและไปท่องเที่ยวในจุดหมายที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก คุณอาจค้นพบสถานที่ท่องเที่ยวสุดพิเศษที่อยู่ห่างบ้านคุณเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ได้ โดยการเที่ยวในแต่ละครั้งจะต้องเลือกใช้บริการสถานที่พัก ร้านอาหาร หรือสถานที่เที่ยวต่างๆ ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานสถานประกอบการที่ปลอดภัย ความเป็นสถานที่เปิด มีระบบถ่ายเทอากาศดี หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ปิด หรือที่ที่มีระบบการระบายอากาศไม่ดี จะช่วยลดโอกาศเสี่ยงในการรับเชื้อจากผู้อื่น ลาหยุดเพิ่มในวันทำงาน เพื่อหลีกเลี่ยงฝูงชนที่ท่องเที่ยวในวันหยุดยาว สำหรับคนที่สามารถทำงานจากบ้าน ตอนนี้นับเป็นเวลาที่คุณจะได้รับเอกสิทธิ์พิเศษ และสัมผัสบรรยากาศของการท่องเที่ยวเต็มๆ ด้วยการเปลี่ยนบรรยากาศวันทำงานให้เหมือนมาเที่ยวพักผ่อน เมื่อเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ในชุมชน ให้ลงทะเบียนการเข้าและออกสถานที่ตามจุดที่กำหนด รวมทั้งปฏิบัติตนตามกฎระเบียบของสถานที่นั้น รวมทั้งควรจดบันทึกวัน เวลา สถานที่ที่ไปเที่ยวหรือใช้บริการตลอดการเดินทาง เพื่อประโยชน์ในการติดตามผู้สัมผัส กรณีมีผู้ติดเชื้อในพื้นที่ การเลือกที่พักนับเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งโดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการพบปะผู้คนจำนวนมาก คุณควรพิจารณาเลือกที่พักที่ตอบโจทย์ความต้องการทุกด้านสูงสุด เช่น เลือกที่พักที่เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และกิจกรรม ที่พักที่มาพร้อมวิวทิวทัศน์สวยงาม หรือที่พักท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติก ลองเลือกประเภทที่พักใหม่ๆ…
-
ที่เที่ยวออสเตรเลีย ไปทั้งทีที่นี่ต้องไม่พลาด
ออสเตรเลีย เป็นประเทศที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ประเทศออสเตรเลียใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก แต่สำเนียงจะแตกต่างจากฝั่งอเมริกัน เมืองน่าเที่ยวของออสเตรเลียมีหลายเมืองที่น่าสนใจ แต่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด อาทิ เมืองซิดนีย์, เมืองเมลเบิร์น, เมืองบริสเบน, เมืองเพิร์ท, เมืองแคนเบอร์รา, เมืองแอดิเลด, เมืองโกลด์โคสต์ และเมืองโฮบาร์ต เป็นต้นแต่ที่นิยมมากที่สุดต้องยกให้ 2 เมืองนี้ ซิดนีย์และเมลเบิร์น นับเป็นโอกาสดีที่เงินบาทแข็งค่าแบบนี้เหมาะกับการยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง เมืองซิดนีย์ ที่เที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ต้องมาเยือนคือ ซิดนีย์ โอเปร่า เฮาส์ (Sydney Opera House) นอกจากวิวงามจับตาแล้วยังมีร้านอาหารหลายแห่งให้บริการ สถานที่เที่ยวถัดไป ได้แก่ สะพานฮาร์เบอร์ (Harbour Bridge) เป็นสถานที่ที่มีจุดชมวิวยอดเยี่ยม นอกจากนี้แล้วยังมีอีกหนึ่งที่เที่ยวที่เราต้องไปให้ได้คือสวนสัตว์ทารองก้า (Taronga Zoo) ยังมีสัตว์กว่า 4,000 ตัว ให้เยี่ยมชมรวมไปถึงสัตว์ประจำชาติอย่างหมีโคล่า และจิงโจ้ ส่วนใครก็ตามที่อยากเที่ยวแบบโซนพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ที่นี่ก็มีพิพิภัณฑ์ศิลปะให้เข้าเยี่ยมชมเหมือนกัน นิวเซาท์เวลส์ (Art Gallery of New South Wales) ที่เก่าแก่มาก แถมยังเข้าชมฟรีด้วย เมืองต่อไป เมลเบิร์น ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ซึ่งมีทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์และหาดทรายแหล่งท่องเที่ยว และเมื่อมาเยือนถึงถิ่นแล้วต้องลองอาหารท้องถิ่นของคนที่นี่ ซึ่งเป็นสวรรค์ของคนรักเนื้อ บอกเลยว่าอร่อย เพราะออสเตรเลียมีแหล่งผลิตทั้งเนื้อวัว เนื้อแกะ และเนื้อจิงโจ้ที่อร่อยสุด…
-
เทรนด์ท่องเที่ยวในไทยยุคโควิด ปี 2565
การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน เป็นปัจจัยที่มีผลต่อการท่องเที่ยวในปีนี้ ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศที่กำลังคิดจะเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยลดน้อยลง ประเทศต่างๆต้องปรับมาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวแปรผันไปตามสถานการณ์โรคระบาด ส่งผลให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจำกัดมากขึ้น ประเทศไทยปีนี้ จึงยังคงเน้นการท่องเที่ยวภายในประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงครึ่งปีแรกของปี65 ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพเป็นหลัก เน้นการชำระเงินแบบ ลดการสัมผัส และหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคนแออัดสูง รูปแบบการท่องเที่ยวหลังยุคโรคระบาดจึงเปลี่ยนไป เป็นการถอดบทเรียนจากสถานการณ์โควิด-19 ที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะก้าวข้ามจาก New Normal ไปสู่ Next Normal ที่เน้นสุขอนามัยของประชาชน และความยืดหยุ่นในการให้บริการของเจ้าของธุรกิจมากขึ้น ดังนั้นเทรนด์นักท่องเที่ยวยุค Next Normal ให้ความสำคัญในการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยว ได้แก่ การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ เพราะยิ่งล็อกดาวน์ประเทศ ประชาชนกักตัวอยู่บ้าน จึงเป็นช่วงเวลาที่ทำให้ธรรมชาติฟื้นฟู เมื่อเปิดประเทศประชาชนจึงอยากกลับไปใกล้ชิดธรรมชาติ บำบัดความเครียดมากยิ่งขึ้น การให้บริการที่พักที่มีมาตรการป้องกันโรคที่ดี จึงตอบโจทย์ความต้องการและสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวได้ดีเป็นอย่างดี ซึ่งไทยก็มีมาตรฐานความสะอาดอยู่ (Amazing Thailand Safety & Health Administration : SHA) เจ้าของธุรกิจผู้ให้บริการจึงต้องปรับบริการให้มีความยืดหยุ่นสูง เพื่อรองรับสถานการณ์และการเข้าพักของนักท่องเที่ยว ซึ่งคนกลุ่มเหล่านี้พร้อมจ่ายในราคาสูง ผู้คนยุคใหม่อยากเปลี่ยนประสบการณ์ จากทำงานที่บ้านเป็นทำงานในสถานที่แปลกใหม่ หลีกเลี่ยงความจำเจ แล็ปท็อปจะกลายเป็นของติดกระเป๋านักท่องเที่ยว เช่นเดียวกับสัญญาณ WiFi แรงดีไม่มีสะดุด จะเป็นปัจจัยในการเลือกที่พักของนักท่องเที่ยวยุคปัจจุบัน เทรนด์การท่องเที่ยวที่เน้นความเรียบง่าย ใกล้ชิดธรรมชาติก็เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงในยุคนี้ เนื่องจากธรรมชาติช่วยบำบัดความเครียด ทำให้นักท่องเที่ยวผ่อนคลายกังวล…
-
คนไทยที่ต้องการเดินทางเข้าประเทศไทยต้องปฏิบัติตามมาตรการที่เกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง
ข้อมูลวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 มาตรการการเดินทางเข้าประเทศไทย ด้วยสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในปัจจุบันทำให้การเดินทางข้ามประเทศมีมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้น มีผลทำให้การเดินทางแต่ละครั้งต้องเพิ่มขั้นตอน เอกสาร และจำนวนวันที่ใช้ในการกักตัวตามมาตรการ เข้าไปในรายละเอียด แผนการเดินทางของทุกคนอย่างเลี่ยงไม่ได้ วันนี้ทาง s-n translation and insurance จึงได้รวบรวมรายละเอียดการปฏิบัติตามมาตรการการเดินทางเข้าประเทศไทยในช่วงสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยมีรายละเอียดดังนี้ ขั้นตอน 1 บุคคลที่มีสัญชาติไทย ที่มีหนังสือเดินทางยังไม่หมดอายุ ขั้นตอน 2 การซื้อตั๋วเครื่องบิน และการกักตัว การเดินทางด้วยเที่ยวบินกึ่งพาณิชย์ สามารถหาซื้อตั๋วเครื่องบินได้กับทางเรา หรือช่องทางอื่นคนไทยที่จะเดินทางมายังประเทศไทย จะต้องรับผิดชอบสำรองสถานที่กักตัวและจ่ายค่าใช้จ่ายเอง โดยสามารถดูรายชื่อสถานที่สำหรับกักตัวได้ที่ AQ (Alternative Quarantine) ระยะเวลาการกักตัวผู้ที่เดินทางไปประเทศไทยทุกคนจะต้องกักตัวไม่น้อยกว่า 14 วัน ไม่ว่าจะได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้วหรือไม่จนกว่าจะมีการประกาศเปลี่ยนแปลง ขั้นตอน 3 ขอรับหนังสือรับรองการเดินทางเข้าประเทศไทย Certificate of entry ลงทะเบียนที่ coethailand.mfa.go.th > ให้ผู้เดินทางกรอกข้อมูลแนบไฟล์ภาพหนังสือเดินทางเข้าไปในระบบ > รับหมายเลขอ้างอิง 6 หลัก > รอผลการอนุมัติภายใน 3-7 วัน (pre-approved) กรณีลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ไม่สามารถลงทะเบียนซ้ำได้ หากเที่ยวบินยกเลิกให้ติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอแก้ไข COE…